การลงลายมือแทนกันเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร |
---|
ตัวการตัวแทนนั้น กฎหมายกำหนดให้สามารถทำแทนกันได้ ซึ่งนั้นหมายความว่า ได้รับมอบอำนาจให้กระทำการนั้นๆ แทนตัวการได้ ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยเรื่องของตัวการตัวแทน โดยมีหลากหลายประเภทแล้วแต่ตัวการตัวแทนจะมอบหมายการนั้นในลักษณะใด อาทิ การมอบอำนาจให้ไปศาลแทน การมอบอำนาจให้ไปรับสินค้าแทน การมอบอำนาจให้ไปโอนที่ดินแทน การมอบอำนาจให้ไปเช่าที่ดินแทน เป็นต้น ตามที่ได้กล่าวข้างต้นนี้นั้น เป็นเรื่องของการมอบอำนาจให้ดำเนินการใดแทนตัวการ แต่ที่จะพูดถึงกรณีในบทความนี้ เป็นเรื่องของการลงลายมือชื่อของตัวการแทนแล้วนำเอกสารนั้นไปใช้กับบุคคลภายนอก เช่น เซ็นเช็คแทน ลงลายมือชื่อในสัญญาเช่าที่มีชื่อตัวการแล้วอ้างว่าตนเองตัวการแล้วลงนามแทนตัวการในสัญญาเช่านั้น เป็นต้น หากสังเกตแล้วจะเห็นได้ว่า ระหว่างตัวการและตัวแทนนั้น ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด แต่หากพิจารณาจากในด้านของฝ่ายบุคคลภายนอกแล้ว ผู้ทำนิติกรรมกับตนกลับไม่ใช่ผู้ทำสัญญาที่แท้จริง ทำให้เกิดความเสียหายและอาจส่งผลกระทบต่อสัญญานั้น |
ลายมือชื่อ ล. ก็ลงลายมือชื่อแทนกันไม่ได้ การที่จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อ ล. ในเอกสารหมาย จ. 2 ถึง จ. 4 จึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จและความผิดฐานปลอมเอกสารนี้จะต้องได้ความด้วยว่าอยู่ในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือไม่ เมื่อได้ความจากโจทก์ร่วมว่าโจทก์ร่วมลงลายมือชื่อโอนลอยในคำร้องโอนสิทธิการเช่าสัญญาเช่าอาคารดังกล่าวโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะนำเอกสารดังกล่าวไปกรอกข้อความอย่างไร แสดงให้เห็นว่า โจทก์ร่วมพอใจในราคาค่าตอบแทนการโอนสิทธิการเช่าเสียมากกว่า หาใช่มีข้อตกลงโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 โดยเจาะจงแต่อย่างใดไม่ สอดคล้องกับที่ ส. เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสตึก พยานโจทก์และโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้จัดทำเอกสารเกี่ยวกับคำร้องโอนสิทธิการเช่าเบิกความว่า โจทก์ร่วมประสงค์จะโอนสิทธิการเช่าอาคารพิพาทให้แก่ ล. ทั้งใบเสร็จรับเงินค่าคำร้องโอนสิทธิการเช่าอาคารตามเอกสารหมาย จ. 5 ก็ระบุว่าได้รับเงินจาก ล. จากพฤติการณ์ดังกล่าวโจทก์ร่วมและเทศบาลตำบลสตึกไม่อยู่ในฐานะที่จะอ้างว่าได้รับความเสียหาย จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จและฐานปลอมเอกสารตามฟ้อง |
Tags : ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่,ทนายความ เชียงใหม่ |