ไม่รู้ว่าทรัพย์ที่รับไว้มาจากการกระทำความผิด ผิดฐานรับของโจรหรือไม่ |
---|
การกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ผู้กระทำจะต้องรู้ว่า ทรัพย์ที่รับซื้อไว้นั้นได้มาจากการกระทำความผิด หากว่าผู้ซื้อรับไม่รู้ว่า ทรัพย์ที่รับซื้อไว้นั้นได้มาจากการกระทำความผิดแล้ว ผู้รับซื้อไว้ย่อมไม่มีความผิดฐานรับของโจร เช่น นาย ก รับซื้อรถจักรยานยนต์จากนาย ข โดยนาย ข อ้างว่า เป็นรถจักรยานยนต์ของตนเองแต่ต้องการขาย ซึ่งความจริงแล้ว นาย ข ลักรถจักรยานยนต์ของนาย เอ มาเมื่อ 2 วันก่อน เช่นนี้ ขณะที่นาย ก รับซื้อรถจักรยานยนต์ดังกล่าว นาย ก ไม่ทราบได้ว่า รถจักรยานยนต์เป็นทรัพย์ของนาย เอ ซึ่งนาย ข ได้มาจากการลักทรัพย์ แม้นาย ก จะรู้ในภายหลังว่า รถจักรยานยนต์เป็นของนาย เอ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่นาย ก ลักทรัพย์มา นาย ก ไม่มีความผิดฐานรับของโจร เป็นต้น
หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
|
คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4102/2535
คดีอาญาโจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย เมื่อนำสืบมารับฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับจำนำอาวุธปืนของผู้เสียหายไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา คดีก็รับฟังลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้. โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันลักเอาปืนสั้น 1 กระบอกของผู้เสียหายไป หรือมิฉะนั้นได้ร่วมกันรับเอาทรัพย์ดังกล่าวของผู้เสียหายไว้ โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 357พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2525 มาตรา 11 |