ตัวแทนทำผิดหน้าที่แต่ขณะกระทำผิดไม่ได้จัดทำหนังสือมอบอำนาจเป็นข้อต่อสู้ตัวแทนได้หรือไม่ |
---|
โจทก์เป็นตัวแทนของจำเลยในการกู้ยืมเงินจากธนาคาร แล้วนำเงินที่กู้ยืมมามอบให้จำเลย แม้การเป็นตัวแทนในการกู้ยืมเงินจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ. มาตรา 798 วรรคสอง ก็มีผลบังคับกันได้ระหว่างตัวการกับตัวแทน เมื่อโจทก์ถูกบังคับชำระหนี้ที่กู้ยืม จำเลยจึงต้องรับผิดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยที่โจทก์ต้องเสียไปคืนให้โจทก์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7626/2547
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า? คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยจะต้องรับผิดชำระเงินให้โจทก์หรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นตัวแทนของจำเลยในการกู้ยืมเงินจากธนาคารตามสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ. 4 แล้วนำเงินที่กู้ยืมมามอบให้จำเลย แม้การเป็นตัวแทนในการกู้ยืมเงินจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ. มาตรา 798 วรรคสอง ก็มีผลบังคับกันได้ในระหว่างตัวการกับตัวแทน เมื่อโจทก์ถูกบังคับชำระหนี้ที่กู้ยืมจำเลยจึงต้องรับผิดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยที่โจทก์ต้องเสียไปคืนให้โจทก์ แต่ที่โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2540 ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเอกสารหมาย จ. 1 นั้นไม่ถูกต้อง เพราะในวันดังกล่าวโจทก์ยังไม่ถูกบังคับให้ชำระหนี้ โจทก์เพิ่งถูกบังคับชำระหนี้เอาจากเงินฝากประจำในสมุดเงินฝากประจำเอกสารหมาย จ. 5 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2541 ดังนั้น โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยเอาจากจำเลยได้นับแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2541 เป็นต้นไป ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 20,000 บาท. |
|