ภริยาปลอมลายมือชื่อสามีไปกู้ยืมและสามีได้รับเงินกู้แล้วก็ต้องรับผิดชดใช้ |
---|
สัญญากู้ยืมเงินแม้มีการปลอมลายมือชื่อผู้กู้ จึงถือว่าเป็นสัญญากู้ยืมเงินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะสัญญากู้ไม่เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเท่ากับว่า มีไม่หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินมาแสดงต่อศาลเพื่อให้บังคับตามสัญญากู้ยืมเงินก็ตาม แต่การกู้ยืมเงินในลักษณะนี้ เป็นการได้รับเงินที่กู้ยืมไปจากผู้ให้กู้ยืมโดยไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ ผู้รับเงินไปจากผู้ให้กู้จะต้องคืนเงินที่กู้ยืมให้แก่ผู้ให้กู้ฐานลาภมิควรได้ เพราะผู้รับเงินไม่มีเหตุผลในการอ้างข้อกฎหมายได้ว่า ได้กู้ยืมเงินมาจากผู้ให้กู้โดยอ้างอาศัยข้ออ้างใด หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 406 บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใดเพราะการที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทำเพื่อชำระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วยประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นจำต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่ง การรับสภาพหนี้สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทำเพื่อชำระหนี้ด้วย คำพิพากษาของศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3207/2559 แม้ลายมือชื่อจำเลยในการทำนิติกรรมยื่นขอกู้และทำสัญญากู้ไว้แก่โจทก์จะเป็นลายมือชื่อปลอมที่ภริยาจำเลยเป็นผู้ดำเนินการให้แทน แต่จำเลยได้รับเงินกู้จากโจทก์ไปแล้ว การที่จำเลยได้รับเงินจากการกู้ยืมที่มีลายมือชื่อปลอมจึงเป็นการรับเงินกู้ไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ จำเลยต้องคืนเงินแก่โจทก์ในฐานลาภมิควรได้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 1,318,983.94 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 1,284,667.44 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยเป็นสมาชิกของโจทก์ นางสุดา เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยและเป็นพนักงานของโจทก์ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2546 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2555 นางสุดาเป็นผู้จัดทำคำขอกู้และสัญญากู้เงินสามัญ เป็นสัญญาเลขที่ 1303 ระบุว่า จำเลยเป็นผู้ขอกู้เงิน 372,000 บาท ตกลงจะชำระคืนเป็นงวดรายเดือน เดือนละ 3,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยรวม 107 งวด เว้นแต่งวดสุดท้ายขอส่ง 1,000 บาท ตั้งแต่งวดประจำเดือนเมษายน 2554 เป็นต้นไป และมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของจำเลยในช่องผู้กู้ คำขอกู้และสัญญากู้เงินสามัญ ยังมีข้อความระบุว่า จำเลยได้รับเงินกู้ 372,000 บาท โจทก์โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่ 901-1-61226-4 และมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของจำเลยในช่องผู้กู้/ผู้รับเงิน รวมทั้งมีข้อความว่า หักหนี้สามัญเดิมและดอกเบี้ยเป็นเงิน 334,500 บาท คงเหลือ 37,500 บาท นางสุดาเป็นผู้จัดทำคำขอกู้และ |
สัญญากู้เงินสามัญ เป็นสัญญาเลขที่ 1966/54 ระบุว่า จำเลยเป็นผู้ขอกู้เงิน 1,200,000 บาท ตกลงจะชำระคืนเป็นงวดรายเดือน เดือนละ 8,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยรวม 150 งวด ตั้งแต่งวดประจำเดือนสิงหาคม 2554 เป็นต้นไป และมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของจำเลยในช่องผู้กู้ คำขอกู้และสัญญากู้เงินสามัญยังมีข้อความระบุว่า จำเลยได้รับเงินกู้ 1,200,000 บาท โจทก์โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่ 15019480 และมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของจำเลยในช่องผู้กู้/ผู้รับเงิน รวมทั้งมีข้อความว่า หักหนี้สามัญเดิมและดอกเบี้ยเป็นเงิน 358,000 บาท หนี้ฉุกเฉินและดอกเบี้ย 446.27 บาท คงเหลือ 841,553.73 บาท และด้านหลังคำขอกู้และสัญญากู้เงินสามัญเป็นหนังสือค้ำประกันเงินกู้สามัญและคำเตือนผู้ค้ำประกันที่ระบุว่า ดาบตำรวจวิภาค ดาบตำรวจพิชิตชัย ดาบตำรวจอำนวยและดาบตำรวจจักรินทร์ ผู้ค้ำประกัน โดยมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของบุคคลทั้งสี่คนในช่องผู้ค้ำประกันที่อยู่ด้านล่างด้วย นางสุดาเป็นผู้จัดทำคำขอกู้และสัญญาเงินกู้เพื่อส่งเสริมอาชีพ เป็นหนังสือกู้ที่ 1366 ระบุว่า จำเลยเป็นผู้ขอกู้เงิน 200,000 บาท ตกลงจะชำระคืนเป็นงวดรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยรวม 100 งวด ตั้งแต่งวดประจำเดือนกรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป และมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของจำเลยในช่องผู้กู้ คำขอกู้และสัญญาเงินกู้เพื่อส่งเสริมอาชีพดังกล่าวยังมีข้อความระบุว่า ยอดเงินที่อนุมัติ 200,000 บาท หักหนี้ฉุกเฉิน 89,700 บาท คงเหลือ 110,300 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารเลขที่ 15019480 และมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของจำเลยในช่องผู้รับเงินและด้านหลังคำขอกู้และสัญญาเงินกู้เพื่อส่งเสริมอาชีพเป็นหนังสือค้ำประกันเงินกู้สามัญเพื่อส่งเสริมอาชีพระบุว่า สิบตำรวจเอกบรรจง ผู้ค้ำประกัน โดยมีลายมือชื่อที่ระบุว่าเป็นของสิบตำรวจเอกบรรจงอยู่ในช่องผู้ค้ำประกันด้วย ศาลชั้นต้นส่งคำขอกู้และสัญญากู้เงินสามัญ คำขอกู้และสัญญาเงินกู้เพื่อส่งเสริมอาชีพ ไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลการตรวจพิสูจน์ระบุว่า ลายมือชื่อในช่องผู้กู้ไม่ตรงกับตัวอย่างลายมือชื่อจำเลย |