สำนักงานกฎหมาย

นพนภัส

ทนายความเชียงใหม่

สัญญากู้ไม่ได้เขียนวันคืนเงินต้นเอาไว้

การกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์จำเลยไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ โจทก์ย่อมจะเรียกให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยพลัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรคแรก และมีอำนาจฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยไม่จำต้องบอกกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 652 ก่อนจึงไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องแล้วหรือไม่

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2535

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไป 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2520 จำนวนเงิน 120,000 บาท และวันที่17 พฤศจิกายน 2520 จำนวนเงิน 50,000 บาท ตกลงคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืน ก่อนฟ้องโจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 297,500บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 170,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

 

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่เคยทวงถามจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

 

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

 

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้อง จำเลยยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า ได้ความตามคำฟ้องว่าการกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์จำเลยทั้งสองครั้งตามสัญญาไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ ดังนั้น โจทก์ย่อมจะเรียกให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยพลัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรคแรกและมีอำนาจฟ้องให้จำเลยชำระหนี้โดยไม่จำต้องบอกกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 652 ก่อนก็ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องแล้วหรือไม่ จึงชอบแล้ว ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น"

 

พิพากษายืน