ทายาทของเจ้ามรดกหรือผู้ตายต้องทราบข้อกฎหมายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน การที่เจ้ามรดกหรือผู้ตายได้ทำการเช่าซื้อรถยนต์ไว้กับไฟแนนซ์หรือบริษัทให้เช่าซื้อรถยนต์หรือทรัพย์สินอย่างอื่นที่ท่านเช่าซื้ออยู่ เมื่อผู้เช่าซื้อถึงแก่ความตาย บริษัทไฟแนนซ์ต้องฟ้องผู้เช่าซื้อที่ถึงแก่ความตายภายใน ๑ ปี นับแต่ทราบว่าผู้เช่าซื้อถึงแก่ความตาย แต่ไม่เกิน ๑๐ ปี นับแต่วันที่ผู้เช่าซื้อถึงแก่ความตาย หากพ้นระยะเวลาที่กล่าวไว้ข้างต้น ย่อมส่งผลให้บริษัทไฟแนนซ์จะฟ้องคดีกับเจ้ามรดกเป็นอันขาดอายุความได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าหนี้ดังกล่าวจะถึงกำหนดชำระแล้วหรือไม่ก็ตาม
ดังนั้น การที่เจ้าหนี้นำคดีมาฟ้องต่อศาลเพื่อให้ทายาทของลูกหนี้รับผิดตามสัญญาเช่าซื้อหรือหนี้อื่นๆ โดยมีเจ้ามรดกหรือผู้ตายเป็นผู้เช่าซื้อ อันดับแรกที่ต้องตรวจสอบดูว่า คดีดังกล่าวที่ท่านได้รับสำเนาคำฟ้องจากโจทก์หรือบริษัทไฟแนนซ์นั้น มีระยะเวลาพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่ได้รู้หรือควรรู้ว่าเจ้ามรดกถึงแก่ความตายแล้วหรือไม่ หากปรากฏว่า หนี้ดังกล่าวพ้นกำหนดระยะเวลา ๑ ปี แล้ว หนี้ดังกล่าวย่อมขาดอายุความ เจ้าหนี้ไม่สามารถเรียกร้องหนี้ดังกล่าวจากทายาทของลูกหนี้ได้อีกต่อไป ข้อกฎหมายดังกล่าว ส่งผลให้คดีของท่านสามารถชนะคดีของบริษัทไฟแนนซ์ได้ แต่การต่อสู้เรื่องขาดอายุความนั้น ในทางคดีแพ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องว่ากล่าวไว้เป็นประเด็นในคำให้การ ซึ่งท่านจะต้องต่อสู้คดีไว้ด้วย ฉะนั้น ท่านต้องว่าจ้างทนายความเพื่อทำการต่อสู้คดีให้แก่ท่านต่อไป
หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย หรือนับแต่เมื่อทายาทโดยธรรมได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
วรรคสอง คดีฟ้องเรียกตามข้อกำหนดพินัยกรรม มิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อผู้รับพินัยกรรมได้รู้หรือควรได้รู้ถึงสิทธิซึ่งตนมีอยู่ตามพินัยกรรม
วรรคสาม ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 193/27 แห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกมีกำหนดอายุความยาวกว่าหนึ่งปี มิให้เจ้าหนี้นั้นฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
วรรคสี่ ถึงอย่างไรก็ดี สิทธิเรียกร้องตามที่ว่ามาในวรรคก่อน ๆ นั้น มิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดสิบปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14516/2558 โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิเรียกร้องอันมีต่อ อ. เจ้ามรดก ฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกของ อ. ซึ่งมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายในการจัดการมรดกโดยทั่วไปหรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกดังกล่าวให้รับผิดตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ที่เจ้ามรดกทำไว้กับโจทก์ซึ่งต้องฟ้องภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เมื่อได้รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 วรรคสาม หาได้เป็นกรณีที่โจทก์ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินใช้สิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ที่ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ 7824/2550 หมายเลขแดงที่ 2979/2551 ของศาลชั้นต้นที่นำมาผูกรวมกับคดีนี้ว่า โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้กองมรดกรู้ถึงความตายของ อ. ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2549 เมื่อนับแต่วันดังกล่าวจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 26 มิถุนายน 2551 จึงพ้นกำหนด 1 ปี คดีเป็นอันขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนโจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 707,680 บาท แก่โจทก์ และให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 92,820 บาท กับค่าเสียหายอีกเดือนละ 2,730 บาท หรือวันละ 91 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ร่วมกันชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 800,500 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ |